วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2553

(เหตุการณ์ทางกรุงหงสาวดี)

๑(๖)         ฝ่ายพระนครรามัญ ขัณฑ์เขตด้าวอัศดง หงสาวดีบุเรศ รั่วรู้เหตุบมิหึง แห่ง เอิกอึงกิดาการ ฝ่ายพสุธารออกทิศ ว่าอดิศวรกษัตรา มหาธรรมราชนรินทร์  เจ้าปถพินทร์
ผ่านทวีป ดับชนมชีพพิราลัย เอารสไทนฤเบศ นเรศวรเสวยศวรรยา แจ้งกิจจาตระหนัก
จึ่งพระปิ่นปักธาษตรี   บุรีรัตนหงสา ธก็บัญชาพิภาษ ด้วยมวลมาตยากรว่านครรามินทร์
ผลัดแผ่นดินเปลี่ยนราช เยียววิวาทชิงฉัตร เพื่อกษัตริย์สองสู้ บร้างรู้เหตุผล ควรยาตรพล
ไปเยือน เตือนประยุทธ์เอาเปรียบ แม้นไป่เรียบเป็นที โจมจู่ยีย่ำภพ เสนีนบนึกชอบ ระบอบ
เบื้องบรรหาร ธก็เอื้อนสารเสาวพนจ์ แด่เอารสยศเยศ องค์อิศเรศอุปราช ให้ยกยาตราทัพ
กับนครเชียงใหม่ เป็นพยุหใหญ่ห้าแสน ไปเหยีบดินแดนปราจิน บุตรท่านยินถ้อถ้อย ข้อย
ผู้ข้าบาทบงสุ์ โหรควรคงทำนาย ทายพระเคราะห์ถึงฆาต ฟังสารราชเอารส ธก็ผะชดบัญชา
เจ้าอยุธยามีบุตร ล้วนยงยุทธ์เชี่ยวชาญ หาญศึกบมิย่อ ต่อสู้ศึกบมิหยอน ไป่พักวอนว่า
ใช้ ให้ธหวงธห้าม แม้นเจ้าคร้ามเคราะห์กาจ จงอย่ายาตรยุทธนา เอาพัสตราสตรี สวมอินทรีย์
สร่างเคาระห์ ธตรัสเยาะเยี่งขลาด องค์อุปราชยินสาร แสนอัประมาณมาตย์มวล นวล
พระพักต์ผ่องเผือด เลือดสลดหมดคล้ำ ช้ำกมลหมองมัว กลัวพระอาชญายอบ นอบ
ประณตบทมูล ทูลลาไท้ลีลาศ ธก็ประกาศเกณฑ์พล บอกยุบลบ่มิหึง ถึงเชียงใหม่ตระบัด
เร่งแจงจัดจตุรงค์ ลงมาสู่หงสา แล้วธให้หาเมืองออก บอกทุกแดนทุกด้าว บอกทุกท้าว
ทุกเทศ ทั่วทุกเขตทุกขอบ รอบสีมามณฑล ทราบนุสนธิ์ทุกแห่ง ต่างตกแต่งแสะสาร
แสนยาหาญมหิมา คลาบรรลุเวียงราช แลสระพราศสระพรั่ง คั่งคับนับเหลือตา ต่างภาษา
ต่างเพศ พิเศษสรรพแต่งตน ข้าศึกยลแสยงฤทธิ์ บพิตรธเทียบทัพหลวง โดยกระทรวง
พยุหบาตร จักยาตราตรู่เช้า เสด็จคืนเข้านิเวศไท้ เกรียมอุระราชไหม้ หม่นเศร้าศรีสลาย
อยู่นา 


ถอดความ
      ฝ่ายนครรามัญ คือ หงสาวดีทราบข่าวว่าพระมหาธรรมราชกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาพิราลัยพระราชโอรส คือ พระนเรศวรได้ขึ้นครองราชย์สมบัติ จึงได้ประชุมหมู่อำมาตย์ปรึกษากันว่า กรุงศรีอยุธยาผลัดเปลี่ยนแผ่นดินใหม่ บางทีพระโอรสทั้งสองพระองค์อาจจะวิวาทกันเพื่อแย่งชิงราชสมบัติเราควรยกทัพไปดูลาดเลา ถ้าได้เปรียบก็จะได้แย่งชิงบ้านเมืองเสีย ขุนนางทั้งหลายต่างก็เห็นชอบกับพระราชดำริ จึงรับสั่งให้พระมหาอุปราชาราชโอรสจัดเตรียมทัพตามด้วยทัพเมืองเชียงใหม่เป็นจำนวนห้าแสนคน ยกไปตรีกรุงศรีอยุธยา พระมหาอุปราชากราบบังคมทูลว่า โหรทำนายว่าพระองค์เคราะห์ร้ายชะตาถึงฆาต พราะเจ้าหงสาวดีจึงตรัสเป็นเชิงประชดว่า "เจ้าอยุธยามีโอรสเก่งกล้าสามารถในการรบ ไม่ต้องให้พระบิดาใช้" แต่กลับต้องไม่ให้ทำศึกเสียอีก ถ้าเจ้าเกรงว่าขุนนางข้าราชการเป็นอันมาก จึงเตรียมยกทัพโดยเกณฑ์จากหัวเมืองต่าง ๆ รวมจำนวนห้าแสนคนเตียมยกทัพไปในเวลาเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น แล้วเสด็จกลับสั่งลาพระสนมทั้งหลายด้วยความอาวรณ์จนถึงรุ่งเช้า  ยังไม่ทันสว่างก็แต่งองค์ทรงเครื่องเสด็จแล้ว
ก็ไปเฝ้าพระราชบิดาเพื่อ ทูลลาไปราชสงคราม ณ กรุงศรีอยุธยา พระเจ้าหงสาวดีก็พระชทานพรให้ชนะศึกสงครามในครั้งนี้ แล้วก็ทรงเตือนว่าสงครามนั้นมากด้วยกลอุบาย อย่าคิดอะไรตื้น ๆ อย่าทนงตน แล้วรงชี้เรื่องที่โบราณสั่งสอนไว้ที่เป็นประโยชน์ต่อการรบ

8 ความคิดเห็น:

  1. เผื่อใครยังไม่รุ้ จุดมุ่งหมายการแต่ง
    เพื่อสดุดีวีรกรรมของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในสงครามยุทธหัตถี เลยนะมันเป็นอะไรที่ดีจัดๆเลย

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณครับสำหรับบทความดีๆ ที่ช่วยผมในการทำข้อสอบครับ

    ตอบลบ
  3. ข้อยผู้ข้าบาทบงสุ์ โหรควรคงทำนาย ทายพระเคราะห์ถึงฆาต ฟังสารราชเอารส ธก็ผะชดบัญชา เจ้าอยุธยามีบุตร ล้วนยงยุทธ์เชี่ยวชาญ หาญหักศึกบมิย่อ ต่อสู้ศึกบมิหยอน ไปพักวอนว่าใช้ ให้ธหวงธห้าม แม้นเจ้าคร้ามเคราะห์กาจ จงอย่ายาตรยุทธนา เอาพัสตราสตรี สวมอินทรีย์สร่างเคราะห์ ธตรัสเยาะเยี่ยงขลาด องค์อุปราชยินสาร แสนอัประมาณมาตย์มวล นวลพระพักตร์ผ่องเผือด เลือดสลดหมดคล้ำ ช้ำกมลหมองมัว​ แปลหน่อยตรับ

    ตอบลบ
  4. อยากรู้ความหมายแต่ละคำของร่ายอะค่ะ
    มีใครพอจะรู้ไหมคะ🤗

    ตอบลบ
  5. อยากรู้ความหมายแต่ละคำของร่ายอะค่ะ
    มีใครพอจะรู้ไหมคะ🤗

    ตอบลบ
  6. อยากรู้ความหมายแต่ละคำของร่ายอะค่ะ
    มีใครพอจะรู้ไหมคะ🤗

    ตอบลบ
  7. ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ใครรู้บอกหน่อยงับ

    ตอบลบ